Breaking News

นครปฐม  พิธีมอบประกาศนียบัตรการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตรตามเกณฑ์ AUN-QAระดับอาเซียน 

นครปฐม  พิธีมอบประกาศนียบัตรการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตรตามเกณฑ์ AUN-QAระดับอาเซียน

เมื่อเวลา15.00วันที่ 23 กันยายน 2562 ที่ หัองประชุม ศ.นพ.นที  รักษ์พลมือง ชั้น5 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยลัยมหิดล ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล  จังหวัดนครปฐม

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง  มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล  พร้อมด้วย ดร.ชลธิศ ธีระฐิติ ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน  และรองศาสตราจารย์ ดร.ภก.สมภพ  ประธานธุรารักษ์  รักษาการแทนรองอธิการบดีฝายพัฒนาคุณภาพ   คุณศิริลักษณ์  เกี่ยวข้อง รักษาการแทนผู้ช่วยอธิการบดีฝายพัฒนาคุณภาพ พร้อมผู้บริหารส่วนงาน (4หลักสูตร ที่รับใบ certifcate) รองศาสตราจารย์ ดร.ยาใจ สิทธิมงคล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์     ดร.พัฒนศักดิ์ มงคลวัฒน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร   พญ.วัชรา ริ้วไพบูลย์  คณบดีวิทยาลัยราชสุดา  ดร.พญ.วิรงค์รอง เจียรกุล รองคณบดีฝายพัฒนาคุณภาพ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ร่วมแถลงผลการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตรตามเกณฑ์ AUN-QA ระดับอาเซียน

ซึ่ง ดร.ชลธิศ ธีระฐิติ ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน ได้กล่าวว่า  เครือข่ายมหาวิทยลัยอาเซียนด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ASEAN University Network- Quaity Assurance หรือ AUN-QA เป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยสมาชิกใน 10 ประเทศ เพื่อสร้างระบบประกันคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตรและระดับสถาบัน โดยเชื่อว่าสถาบันอุดมศึกษามีบทบาทสำคัญในการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วนในสังคม และเป็นกลไกหลักในการพัฒนาสังคม เศรษกิจ สิ่งแล้อมทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืนและเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ดังกล่าว AUN-QA จึงพัฒนาระบบและกลไกมาตรฐานประกันคุณภาพการศึกษาผ่านกิจกรรมเกี่ยวเนื่อง3ส่วนหลัก ได้แก่ การอบรมเชิงปฏิบัติการด้านประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อการประเมินคุณภาพหลักสูตร การอบรมผู้ประเมินหลักสูตรและการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพระดับสถาบัน มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ AUN-QA มาโดยตลอด โดยเข้าร่วมการตรวจประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตรตามเกณฑ์ AUN-QA ทั้งหมด3ครั้ง ผ่านการประเมินรวมทั้งสิ้น11 หลักสูตร ซึ่งการประเมินที่ผ่านมามีผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งยังสามารถรักษามาตรฐานคุณภาพหลักสูตรในระดับดีมาอย่างต่อเนื่องเป็นตัวอย่างของหลักสูตรที่มีแนวทางการปฏิบัติในระดับแนวหน้าของภูมิภาค

 


ทางด้าน ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง  มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล  กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลได้ผลักดันให้ทุกหน่วยงานสร้างวัฒนธรรมความเป็นเลิศ (Excellence culture) ให้เกิดขึ้นภายในองค์กรครอบคลุมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านการจัดการศึกษา ด้านการวิจัย  ด้านผลงานนวัตกรรมและด้านเทคโนโลยีต่างๆ ให้เหนือความคาดหวังของผู้ใช้บัณฑิต นักศึกษา และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศและนานาชาติเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกตามเป้าหมายที่ตั้งไว้  โดยได้นำแนวทางการจัดการศึกษาแบบมุ่งผลลัพธ์ (outcome based Education) เข้ามาใช้ในการปรับปรุงเนื้อหาของหลักสูตรและนำเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาของเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (AUN-QA) มาเป็นกลไกในการรักษาคุณภาพและมาตรฐาน ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ซึ่งจะเป็นผลดีต่อมหาวิทยาลัยย่างยิ่งจะแสดงถึงความเข้มแข็งและมีศักยภาพทัดเทียมกับมหาวิทยาลัยในภูมิภาค เพิ่มโอกาสในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา  การโอนหน่วยกิตและการสร้างกิจกรรมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสมาชิกในเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน  ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิตลได้ให้ความสำคัญกับมาตร ฐานด้านหลักสูตรการศึกษาอย่างเต็มที่ ทำให้ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับหลักสูตรมาแล้ว 7หลักสูตรและในครั้งนี้มีหลักสูตรได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 4 หลักสูตร

ได้แก่

1.หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต  สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นานาชาติ)  คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

2.หลักสูตรพยาบาลศสตรบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์

3.หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต  สาขาวิชาวิทยการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ วิทยาลัยราชสุดา

4.หลักสูตรอายุรศาสตรเขตร้อนคลินิกมหาบัณฑิต (นานาชาติ)คณะเวชศาสตร์เขตร้อน

อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพของมหาวิทยามหิดล ที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ทำให้การตรวจประเมินในแต่ละหลักสูตร มีความเข้มงวด เพื่อให้หลักสูตรนั้นๆได้มีการปรับปรุงให้เป็นไปตามเกณฑ์หรือตัวชี้วัดตามมาตรฐานของAUN-QA ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมหิดลได้กำหนดเป้าหมายการรับรองในระดับนานาชาติจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15 ของหลักสูตรทั้งหมดภายในปี พ.ศ.2564

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น