จุดไฟ-ลูกชั่ลูกชั่วอัปรีย์! ‘ด่าแม่ ให้เมียฟัง’แถมยังไปมีเมียน้อย
คอลัมน์จุดไฟในใจคน…พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) ลูกชั่ลูกชั่วอัปรีย์! ‘ด่าแม่ ให้เมียฟัง’แถมยังไปมีเมียน้อย ห้อยลูกมาอีก 1 เสือกทะลึ่ง! เล่าเรื่องบนเตียงให้แม่รู้
หลวงพี่หดหู่ ชาตินี้ก็รู้กัน ‘ขยันทำไปเถอะ ความชั่ว’ เจริญพรญาติโยมทุกท่าน จุดไฟในใจคนฉบับนี้ อาตมามีโอกาสรับฟังเรื่องราวของลูกอัปรีย์ ที่เลวมากๆ ลูกชั่วรายนี้ นำเรื่องของแม่ มาด่าให้เมียฟัง เอาเรื่องปมด้อยบนตียงของเมียไปเล่าให้แม่ฟัง เพื่อหวังผลเรื่องเงินทอง เรื่องทั้งหมดคือชีวิตจริง ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า ด่าเมียด่าแม่ แย่ไปกว่านั้น หักหลังหลอกเมีย ไถเงินไปปนเปรอกิ๊กใหม่ แถมได้ลูกมาอีกหนึ่ง ญาติโยมทั้งหลาย เรื่องของลูกชั่วผัวชั่วรายนี้ มีพฤติกรรมน่าอัปยศ
ทั้งที่แม่รักลูกคนนี้มาก ทุ่มเทส่งเสียไปเรียนเมืองนอก แต่ลูกก็ยังไปบอกกับเมีย ว่าแม่ไม่รัก รักน้องมากกว่า ระหว่างไปเรียนต่างประเทศ โกหกอาจารย์ สร้างเรื่องมุสา ให้เกิดความรักความสงสารพอกลับมาเมืองไทย ได้ทำงานดี คบสาวมากหน้า มาเจอกับเมียปัจจุบัน แต่งงานออกหน้า แต่ไม่หยุดชั่วช้าสามานย์ ที่สำคัญก่อนแต่งมีเมียอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็หาเรื่องชวนทะเลาะทุบตี เพื่อต้องการเลิก หวังไปแต่งงาน พอแต่งไม่ทันไร ก็ยังแอบไปมีอะไรกับเมียเก่าอีกแถมไปเล่าให้แม่ฟัง ว่าเมียใหม่ที่แต่งงาน ไม่สวยไม่เก่ง แต่มีเงิน มาจับมันเอง ก็เลยยอม
แบบเลยตามเลย นอกจากความกะล่อนสำส่อนแล้ว ยังติดการพนัน พอเล่นเสีย ก็เที่ยวไปยืมเงินชาวบ้าน วันดีคืนดีขโมยเงินแม่ยาย ขโมยเงินเมีย เข้าตาจน หาไม่ได้จริงๆ ก็โทรไปยืมทุกคนที่ติดต่อได้ พอเมียถาม ไถลไปเรื่อย อ้างเหตุโกหกต่างๆนานาสุดท้ายมาลงที่แม่ บอกเมียว่าแม่ไม่รัก มีสมบัติอะไรก็ให้น้อง พูดเช่นนี้เพื่อเบี่ยงเบนความผิด เรียกร้องคะแนนสงสาร พอเมียได้ฟังผัวอ้อน ใจอ่อน เชื่อผัว ทุกวันนี้แม่ต้องช้ำใจ แต่ก็ให้อภัยลูกเสมอ แม่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกทำ พยายามเตือน แต่ผลที่ได้รับ คือเสียงด่าจากลูก ที่ไม่พอใจ หาว่าแม่มาเล่าให้เมียฟังทำไม ทำให้เดือดร้อน โดนเมียด่า ทั้งที่แม่ไม่เคยเล่าให้เมียฟังสักครั้งเดียวแม่รู้สึกเจ็บปวดในความเป็นแม่ ที่ไม่สามารถทำให้ลูกเป็นคนดีได้ รู้สึกเสียใจกับการกระทำของลูก ที่ทำไม่ดีกับเมียและลูกแม่พยายามวางตัวเป็นกลาง อยากให้ลูกชายกลับตัวเป็นคนดี ซื่อสัตย์กับเมีย และรักลูกให้มากๆ ไม่อยากให้หลานมีปมด้อย
ทุกวันนี้ยังหลอกเมียว่าไม่มีอะไร โยนความผิดทั้งหมดให้แม่ล่าสุดลูกชั่วรายนี้ เซ็นใบหย่ากับเมียเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างจบ เพราะไปคบกับคนใหม่ ได้ลูกมาอีกหนึ่งคนนี่คือความสับสนวุ่นวายของลูกชายชั่ว ก่อนเซ็นใบหย่า โยนความผิดไปให้แม่อีก บอกว่าแม่ยุให้แบ่งสมบัติคนละครึ่ง แต่ตนไม่เอา ขอยกให้เมียและลูกไปทั้งหมด ทั้งๆที่แม่ไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย ทุกวันนี้แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกคนนี้จิตใจทำด้วยอะไร ญาติโยมทั้งหลาย พวกเราหลายคนที่เป็นแม่ ต่างเห็นลูกมามากมาย มีทั้งดีและชั่ว แต่ส่วนใหญ่ล้วนกตัญญูกับพ่อแม่ ส่วนพวกที่ด่าพ่อแม่ จุดจบของชีวิต มักเอาดีไม่ได้ คนที่พูดไม่ดีกับพ่อแม่ ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ จักไม่มีวันเจริญ ทุกวันนี้ลูกทั้งหลาย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย บางรายตัวเองยังพึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ ถือเป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ พ่อแม่ให้ชีวิต ให้เรียนสำเร็จ แล้วยังช่วยตัวเองไม่ได้ อาตมาถือว่ามีหนี้ติดค้าง ลูกจำพวกนี้ทำมาหากินไม่ขึ้น หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ นั่นคือหนี้บุญคุณของพ่อแม่ ส่วนโยมที่เป็นแม่ของลูกชั่ว อาจจะเหนื่อยท้อ ที่ต้องทำดี กับลูกที่รัก แต่ลูกไม่เข้าใจ โยมอย่าท้อ ควรทำดีต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคิดดีต้องได้ดี พูดดีต้องได้ดี ทำดีแล้วต้องได้ดี ไม่ว่าช้าหรือเร็ว ต้องได้ดีแน่นอน และต้องอดทนเข้าไว้แผ่เมตตาให้กับลูกชั่วที่ยังไม่สำนึก และให้อภัย ทุกอย่างต้องดีขึ้น อาตมาขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคน ให้คิดเสียว่า ต้นไม้ถ้าลูกมันรสไม่ดี ก็มีแต่คนจะโค่นต้นทิ้ง ไม่มีใครคิดจะบำรุงรักษาไว้ ตรงข้ามถ้าลูกมันรสดี ทั้งหวานทั้งมัน เจ้าของก็อยากใส่ปุ๋ยรดน้ำพรวนดิน ทะนุถนอมให้คงต้นอยู่นานๆ ต้นไม้จะอายุยืน ได้รับการบำรุงรักษาดีเพียงไร ขึ้นอยู่กับลูกของมัน คนเราก็เช่นกัน ถ้าลูกทำดี คนทั้งหลายก็ชมมาถึงพ่อแม่ว่าเลี้ยงลูกดี ความสุขกายสบายใจก็ติดตามมาเพราะลูก บุญกุศลความดีก็ไหลมาเพราะลูก แต่ถ้าลูกทำชั่วช้าเลวทราม คนทั้งหลายก็แช่งด่ามาถึงพ่อแม่ ฉะนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงชี้ว่า สิริมงคลของคนที่เป็นพ่อแม่อยู่ที่ลูก และในทางตรงข้าม ถ้าไม่ป้องกันแก้ไขให้ดีแล้ว อัปมงคลก็จะมาจากลูก ยกตัวอย่างโยมบางท่าน เลี้ยงสุนัขแล้วกัดสู้สุนัขคนอื่นไม่ได้ โยมยังรู้สึกเจ็บใจ เลี้ยงลูกแล้วดีสู้ลูกคนอื่นไม่ได้ มันจะช้ำใจสักแค่ไหน แม่อยากได้ลูกดี แม่ต้องเป็นคนดี เหมือนต้นไม้พันธุ์ดี ย่อมมีลูกพันธุ์ดี บัณฑิตทั้งหลาย ปรารถนาอภิชาตบุตร อนุชาตบุตร ไม่ปรารถนาอวชาตบุตรผู้ตัดสกุล บุตรเหล่านี้แล มีพร้อมอยู่ในโลก บุตรเหล่าใดเป็นอุบาสก มีศรัทธา ถึงพร้อมด้วยศีล รู้ถ้อยคำ ปราศจากความตระหนี่ บุตรเหล่านั้น ย่อมไพโรจน์ในบริษัททั้งหลาย เหมือนพระจันทร์พ้นจากก้อนเมฆ ไพโรจน์อยู่ โยมที่เป็นแม่ส่วนใหญ่ล้วนทุกข์ แต่จงจำไว้ ทุกข์ทำให้เกิดปัญญา โยมเข้าไปรู้ทุกข์เห็นทุกข์ โยมพยายามละทุกข์อันนั้น ถ้าโยมเป็นคนคิดมาก ก็พยายามแก้ปัญหาเรื่องความคิด พอคิดมากน้อยลงปัญหาก็ไม่มี คนเป็นแม่ถ้าลูกชั่ว ก็ปล่อยไป อย่าไปเครียดตามมัน หมั่นเจริญเมตตา เมื่อความโกรธน้อยลง กลายเป็นคนใจเย็น เห็นทุกข์แล้วแก้ทุกข์ได้ ก็เป็นกำไรชีวิต อย่าไปสนใจเรื่องลูกให้มากเกินไปกรรมใครกรรมมัน ไม่ต้องรอชาติหน้า เดี๋ยวชาตินี้ก็รู้กัน
ขอเจริญพร
…………………………………….