ปทุมธานี. แห่ลงทะเบียนผู้ป่วย-ครอบครอง “กัญชา”
ที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาแจ้งจดครอบครองกัญชาสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นกันเป็นจำนวนมาก
ตามที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ซึ่งแก้ไขจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยเปิดโอกาสให้นำกัญชาและพืชกระท่อมไปทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และใช้รักษาโรคภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ได้ จากเดิมกัญชาและพืชกระท่อม เป็นยาเสพติดที่ถูกกำหนดให้โทษในประเภท 5 ที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพหรือนำไปใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วย หรือนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และกำหนดโทษทั้งผู้เสพและผู้ครอบครอง
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 จำนวน 3 ฉบับ เกี่ยวกับการนิรโทษครอบครองกัญชาใน 3 กลุ่ม 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับแรก คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรือให้ทำลายกัญชาที่ได้รับมอบจากบุคคล ซึ่งไม่ต้องรับโทษ ตามมาตรา 22 แห่งพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562 ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ และ ฉบับที่ 3 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา สำหรับผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 26/5 และบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ป่วยตามมาตรา 22 (2) ก่อน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ กล่าวคือ บุคคลที่ไม่ใช่กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ซึ่งทั้ง 3 ฉบับให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
การขึ้นทะเบียนจดแจ้งครอบครองกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ โดยผู้ป่วยที่จะยื่นจดแจ้ง ต้องมีใบรับรองแพทย์ รูปถ่ายกัญชาที่มีในครอบครอง และบัตรประชาชน จึงจะสามารถจดแจ้งได้กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันกัญชาที่ใช้เพื่อรักษาโรคหรืออาการ ต้องเตรียมหนังสือรับรองของแพทย์ซึ่งระบุโรคและอาการของโรค และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ พร้อมทั้งกัญชาที่ใช้ในการรักษาตนเองด้วย
ซึ่งในวันนี้ มีประชาชนผู้ป่วยชาวจังหวัดปทุมธานี มาขอขึ้นทะเบียนจดแจ้งครอบครองกัญชากันเป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 50ราย
ด้านนายชาญ พวงเพ็ชร์ เปิดเผยว่าหากการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชน ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีการออกกฎหมายมารองรับให้ทำได้อย่างมีคุณภาพ และควบคุมมาตรฐาน ได้จะช่วยลดภาระรัฐบาล ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศที่เกิดขึ้นแน่ๆ คือ ลดค่าใช้จ่ายบุคลากรทางการแพทย์ ลดปริมาณงาน และลดค่ายารักษาโรคในส่วนของประชาชน จะลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาลได้ การใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชน ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นประโยชน์ทั้งกับรัฐ และ ประชาชน และขอย้ำว่าจะเป็นการสร้างเสริมคุณภาพการให้บริการแก่ผู้ใช้บัตรทอง 30 บาทได้อีกทางหนึ่งด้วย เมื่อจำนวนผู้ป่วยไปโรงพยาบาลน้อยลง
แนวคิดสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ เพื่อรักษาอาการป่วยของตนเองได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีการผูกขาด มีเป้าหมายที่ประโยชน์ของประชาชน เป็นหลักลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย ครอบครัวและโรงพยาบาลของรัฐบาล ลดภาระงบประมาณของบัตรทอง30 บาท สร้างโอกาสทางศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่จะร่วมโครงการปลูกกัญชา เพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตยารักษาโรค ทั้งแพทย์แผนไทย และแผนปัจจุบัน ตามเงื่อนไขกฎหมายกำหนดกัญชาเพื่อการแพทย์ ในทัศนะของผมจึงเป็นทั้งยาแก้อาการของโรคที่เป็น และเป็นยาแก้จน ได้อีกด้วย
นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าว่าสำหรับการแจ้งครอบครองกัญชาของผู้ป่วยที่มีกัญชาครอบครองเพื่อการรักษาอยู่แล้ว ก่อน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 บังคับใช้นั้น ผู้ป่วยหรือผู้แทนจะต้องมาแจ้งการมีไว้ในครอบครองหลัง พ.ร.บ.บังคับใช้ ภายใน 90 วัน หรือภายในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยแจ้งได้ตามที่อยู่อาศัย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และต่างจังหวัด แจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด