Breaking News

หลวงพี่น้ำฝนนำคณะสงฆ์ เดินสายเมตตาบิณฑบาตเรือนจำอ่างทอง รับเทศกาลสงกรานต์ 68

หลวงพี่น้ำฝนนำคณะสงฆ์ เดินสายเมตตาบิณฑบาตเรือนจำอ่างทอง รับเทศกาลสงกรานต์ 68

หลวงพี่น้ำฝน นำคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง จ.นครปฐม เดินสายบิณฑบาตเปิดโอกาสให้ผู้ต้องโทษเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ได้ทำบุญตักบาตเนื่องในโอกาสเทศกาลวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทยประจำปี 2568 พร้อมบรรยายธรรมให้แสงสว่างแก่ผู้ถูกจำกัดอิสรภาพโดยมีการร้องเพลง อยู่ให้เป็นเย็นให้พอ บันทึกสำหรับเผยแพร่ให้กำลังใจผู้ถูกจำกัดอิสรภาพด้วย

วันที่ 11 เมษายน 2568 ที่เรือนจำจังหวัดอ่างทอง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์หรือหลวงพี่น้ำฝน รักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง จ.นครปฐม พร้อมคณะสงฆ์ เดินทางไปให้โอกาส ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขัง เรือนจำจังหวัดอ่างทอง ทำบุญตักบาตร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2568 หรือปีใหม่ไทย และจัดกิจกรรมบรรยายธรรม เจิมป้ายสนามมวย พัฒนาฝีมือสร้างชื่อเวทีระดับชาติ ตั้งเป้าวัดไผ่ล้อมจะนำหลักธรรมให้โอกาสขัดเกลาคนเคยผิดคิดใหม่ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ

โดยมีนายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ซึ่งในวันนี้ทางผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ได้มีโอกาสในการทำบุญตักบาตรในพื้นที่ควบคุม มีผู้ต้องขังได้มีการเข้าแถวและได้ร่วมกันใส่บาตรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งร้องเพลง อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ และถ่ายทำMV สำหรับเผยแพร่ความสามารถของผู้ต้องขังในการฝึกร้องเพลงประสานเสียง เพื่อเผยแพร่กิจกรรมในการร้องเพลงซึ่งมีเนื้อหาให้กำลังใจผู้ที่ต้องรับโทษภายในสถานที่จำกัดเสรีภาพในช่วงต้องโทษหลวงพี่น้ำฝน รักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง จ.นครปฐม ได้จัดการบรรยายธรรม โดยนิมนต์พระสงฆ์ของวัดไผ่ล้อมที่เคยหลงผิดและตกเป็นทาสของยาเสพติด กระทั่งถูกจับกุมทั้งในฐานะของผู้ค้าและผู้เสพและฆ่าคนตาย ซึ่งเคยต้องโทษในเรือนจำมาแล้วถึง 5 ครั้งก่อนที่จะตัดสินในบวชเพื่อศึกษาพระธรรม ซึ่งปัจจุบันสามารถกลับตัวกลับใจจนไม่กลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและใช้หลักพระธรรมคำสั่งสอนมาปฏิบัติปรับใช้จนสามารถเข้าใจถึงความหมายของชีวิตได้ปัจจุบันเป็นดำรงค์แหน่งเป็นพระครู ซึ่งทำหน้าที่บรรยายธรรมในการนำเอาประสบการณ์ตรงไปสอนในสถานศึกษาเพื่อเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหลงกระทำความผิด โดยได้มุ่งเน้นเพื่อนำประสบการณ์มาถ่ายทอดให้ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนราว 1,350 พันคนได้รับฟังและนำวิธีคิดและปฏิบัติไปปรับใช้ในช่วงที่รอการปลดปล่อยหลังรับโทษครบตามคำพิพากษาหลวงพี่น้ำฝน เปิดเผยว่าการที่วัดไผ่ล้อมได้นำคณะสงฆ์ มาจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐ ซึ่งมองเห็นว่าผู้ต้องขังนั้นมีโอกาสน้อยกว่าคนที่อยู่ภายนอกกำแพงสูงมาก และยังมีผู้ต้องขังอีกมากที่มีความรู้ ความสามารถ แต่อาจจะหลงกระทำความผิด หรือตั้งใจกระทำความผิดแต่เมื่อมารับโทษและมีความคิดใหม่ ซึ่งการนำเอาศาสนามาปรับสอนให้เขาเหล่านั้นได้เข้าถึงจะทำให้เป็นการนำหลักพระธรรมคำสั่งสอนมาปรับใช้ในช่วงถูกควบคุมตัว เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจกับเขาเหล่านี้เมื่อเขาพ้นโทษออกไปก็จะมีภูมิป้องกันในการไม่กลับไปกระทำความผิด อย่างที่อาตมานำคณะสงฆ์มาให้เขาได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ภาพที่เห็นคือเขาดีใจ เขาตั้งใจและอยากทำบุญหลายคนยิ่งเมื่อได้มานั่งพูดคุยกันแล้วถ้าเราทำให้เขาศรัทธาและให้โอกาสกับเขา ก็จะทำให้เขาเริ่มคิดดีและเริ่มต้นทำดีได้ทันที แม้จะไร้อิสรภาพแต่เขามีอิสระทางการติดเริ่มต้นที่จะวางชีวิตใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอถึงวันที่ปลดปล่อยออกมา และวัดไผ่ล้อมก็พร้อมจะทำหน้าที่ด้านสาธารณสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือให้สังคมมีความสงบเหมือนหลายโครงการที่ผ่านมา