องคมนตรีฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมกรมราชทัณฑ์ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เรือนจำกลางนครปฐม
องค์มนตรีเดินทางเป็นประธานเปิดกิจกรรมกรมราชทัณฑ์ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCD ด้วยหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต LM (Lifestyle Medicine) โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อให้ความรู้กับผู้ต้องขังในการดูแลสุขภาพในการอยู่ในระหว่างการต้องโทษเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และชมการดำเนินการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนภายในเรือนจำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนพ้นโทษรวมถึงการดำเนินการอีกหลายกิจกรรม และเข้าชมหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลนครปฐม สำหรับจัดระเบียบการรักษาผู้ต้องขังให้ได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมโดยมีการแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน 
วันที่ 10 ก.พ.68 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานกรรมการมูลนิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมป์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมราชทัณฑ์ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCD ด้วยหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต LM (Lifestyle Medicine) ณ ฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจ เรือนจำกลางนครปฐม โดยมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พล.อ.อ.สมคิด สุขบาง กรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข คณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงยุติธรรม , ปลัดกระทรวงยุติธรรม ,รองปลัดกระทรวงยุติธรรม , รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข , อธิบดีกรมราชทัณฑ์ , รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม , นายอำเภอเมืองนครปฐม , ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม , หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในพิธีเปิด และมี ดร.ขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม กล่าวรายการเปิดงานและนายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการดำเนินการ
โดยการดำเนินการดังกล่าวเรือนจำกลางนครปฐม ได้ดำเนินการตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงห่วงใยในสุขภาพของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ต้องขังเพื่อให้ได้รับการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรมและได้รับการดูแลสุขภาพที่ดี การนำหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิตมาประยุกต์ใช้ในเรือนจำ เป็นการส่งเสริมให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCD ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่สำคัญเป็นการร่วมมือกับโรงพยาบาลนครปฐม ในการอนุเคราะห์แพทย์เข้ามาอบรมให้ความรู้ด้านโภชนาการและการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้ต้องขังส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจด้านโภชนาการและความใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
จากนั้น องคมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินการด้านต่างๆ ของเรือนจำกลางนครปฐม เช่นการประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย โดยอำเภอเมืองนครปฐม ซึ่งได้มีการจัดให้มีการทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ผู้ต้องขังสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนพ้นโทษและรับสิทธิด้านการรักษาอย่างเท่าเทียมโดยมีการดำเนินการเดือนละ 1 ครั้ง การส่งเสริมด้านอาชีพและกิจกรรมต่างๆ สำหรับผู้ต้องขังทั้งด้านหัตถกรรม งานช่างและงานฝีมือประเภทต่างๆ รวมถึงการอนุรักษณ์วัฒนธรรมประเพณี รวมถึงการจัดอบรมทางด้านพระพุทธศาสนา
ต่อมาได้เดินทางไปยังอาคารรวมเมฆ โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อเข้าเยี่ยมชม หอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลนครปฐม โดยมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ผู้สนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้าง หอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข ซึ่งเรือนจำกลางนครปฐมได้ดำเนินการเพื่อให้ผู้ต้องขังเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ตามหลักมนุษยธรรม และดำเนินการในกรณีที่ผู้ต้องขังมีอาการรุนแรงหรือมีความจำเป็นต้องส่งตัวมารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครปฐม ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการดูแลผู้ต้องขังที่เจ็บป่วย จึงจำเป็นต้องจัดให้มีห้องแยกเฉพาะ และจัดที่พักให้แก่ผู้คุมที่มาเฝ้าผู้ป่วยอย่างมีระบบแยกออกจากประชาชนทั่วไปแต่ได้รับการบริการด้วยเครื่องมือที่มีความพร้อมทัดเทียมประชาชนทั่วไปอีกด้วย