หลวงพี่น้ำฝน รุดช่วย นศ.ปี 1 ถูกปู่เลี้ยงเผาบ้าน 2 หลังรถ 1 คัน หวังฆ่ายกครัว เหตุจากหนี้พนัน
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม รุดเยี่ยมบรรเทาทุกข์ นำเงินและเครื่องใช้ยังชีพ มอบให้น้องออย(นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 รอดตายหวุดหวิดหลังถูกปู่เลี้ยง วางเพลิงเผาบ้าน 2 หลัง รถกระบะ 1 คัน โดยหวังฆ่าคนในบ้านให้ตายทั้งหมด โชคดีตื่นหนีออกมาได้ โดยน้องออย (นามสมมติ) ถูกล๊อคห้องต้องวิ่งชนประตูเอาตัวรอด ก่อนมาพบหน้ามือเผาตะโกนขู่จะกลับมายิงทั้งบ้าน ล่าสุดมีรายงานตำรวจจับกุมมือวางเพลิงได้แล้ว ทำคนในบ้านผวาหวังตำรวจ ศาล ระงับการให้ประกันตัว กลัวแค้นหนักเรื่องไม่ได้เงินจากคนในบ้านไปใช้หนี้พนัน กลับมาก่อเหตุซ้ำ
วันที่ 14 ธันวาคม 67 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม เดินทางไปยังพื้นที่ ตำบลสามควายเผือก อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายวุฒิชัย รักชาติ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม คณะครู เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจกับ น้องออย (นามสมตมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งถูกคนในบ้านวางเพลิงเผาบ้าน 2 หลังและรถกระบะ 1 คัน พร้อมมีการขู่ฆ่ายกครัว ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมด้วยคณะของผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม ได้เข้าสอบถามข้อมูลและตรวจสอบดูความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยพบว่าในบ้านหลังแรกมีความเสียหายจากการถูกเพลิงไหม้เป็นห้องโถงกลางของบ้านและห้องนอนอีก 2 ห้อง ส่วนอีกหลังได้รับความเสียหายจากเปลวเพลิงที่ห้องนอนและห้องโถงในบ้าน ทั้ง 2 หลังมีเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์รวมถึงเงินสดจำนวนหนึ่งถูกเผาเสียหายทั้งหมด โดยมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุมีขาว 4 กข 6518 กรุงเทพ ถูกเผาที่หน้ากระโปรงและเครื่องยนต์เสียหายไปด้วย
น้องออย (นามสมมติ) บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.40 น. ของคืนวันที่ 10 ธันวาคม 67ที่ผ่าน ขณะที่ตนเองกำลังนอนพักในบ้านซึ่งเป็นห้องของย่า ได้กลิ่นควันไฟและเปลวเพลิงจึงได้ลุกขึ้นมาดู ปรากฏว่าเห็นนายแสง อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นสามีของย่าที่มาอยู่กินด้วยกันประมาณ 17 ปี ได้เป็นคนลงมือวางเพลิง ซึ่งเมื่อตนเองได้พยายามจะออกไปดับ ก็ได้ยินเสียงอาและญาติ ตะโกนมาจากหลังห้องว่าให้ช่วยมาดับเพลิงที่รถกระบะ ตนเองก็ได้ตะโกนสวนออกไปว่าในบ้านกำลังเกิดเพลิงไหม้เหมือนกัน และขณะที่จะวิ่งหนีออกมา ปรากฏว่า นายแสง ได้ทำการล๊อคห้องไม่ให้ออกมา จึงได้พยายามตัดสินใจวิ่งหนีออกมาโดยการพุ่งชนประตู จากนั้นได้เหลือบไปเห็นบ้านอีกหลัง ซึ่งเป็นบ้านที่พ่ออาศัยอยู่ ก็เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นด้วย
น้องออย (นามสมมติ) เล่าต่อไปว่า ช่วงจังหวะที่นายแสง กำลังจุดไฟ ได้มีการไล่หมาที่นายแสงเลี้ยงเอาไว้ออกมาจากบ้านหลังแรกเพื่อไม่ให้ถูกไฟครอก และจากนั้นดะโกนว่า จะเผาคนทุกคนให้ตายในบ้านทั้งหมด ถ้าไม่ตายจะกลับมายิงทิ้งทั้งครอบครัว ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปท่ามกลางความมืด และทุกคนในบ้านที่อยู่ในรั้วเดียวกัน ได้ออกมาช่วยดับไฟ ส่วนตัวเองได้ตั้งสติและโทรแจ้งรถดับเพลิงให้มาช่วยสกัดไฟแต่รถหลงและเส้นทางที่มาบ้านซับซ้อนหลายแยกทางทำให้ไฟไหม้ข้าวของไปเยอะก่อนจะมาช่วยดับไฟไม่ให้ลามไปหมดทั้งหมด
“ตอนนี้หนูกลัวมากเพราะเขาประกาศจะกลับมายิงคนในบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาหนูก็ดูแลเขามาโดยตลอด และเห็นว่าเขาเคยทำร้ายย่าบ่อยครั้ง ซึ่งเคยเข้าไปช่วยแต่ก็เคยถูกลูกหลงมา หนูเก็บปัญหามาหลายปีไม่กล้าปรึกษาใครเพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องในบ้าน และยอมรับการตัดสินใจของผู้ใหญ่ หนูอยากถามว่าเขาจุดไฟทั้งบ้าน แต่ไล่หมาตัวเองออกไปแล้วล๊อคห้องไม่ให้หนูออกไปเขาทำไมใจร้ายหรือหวังอยากให้หนูตายไป ตอนนี้เงินที่ทำงานรายวันมาได้ เสื้อผ้า ของส่วนตัวห้องพักที่เคยเก็บเงินมาตกแต่งห้องพังหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป” น้องออย(นามสมมติ) เล่าทั้งน้ำตา
ทั้งนี้ข้อมูลจากทางญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า นายแสง เคยต้องคดียาเสพติดและถูกติดคุกมาก่อน หลังพ้นโทษได้ออกมาคบหากับย่าของน้องออย (นามสมมติ) และมีลูกด้วยกัน 1 คน และไม่มีอาชีพหลักโดยเป็นนักพนันตัวยงโดยไปสร้างหนี้สินไว้เป็นหลักแสน โดยที่ย่าของน้องออย (นามสมมติ) ต้องคอยชดใช้เงินให้ หากไม่มีเงินก็จะถูกทำร้ายร่างกาย ขู่ฆ่าจนทนไม่ไหว และหนีออกไปอยู่ที่อื่น ซึ่งน้องออย (นามสมมติ) ก็อยู่อาศัยไปนายแสงในบ้านและต้องทำงานช่วยทุกอย่างทั้งซักผ้าล้างจาน โดยมูลเหตุไม่ทราบว่าไปเสพยาหรือกดดันเรื่องไม่มีเงินการพนันจึงได้เผาบ้านทั้ง 2 หลังเพื่อฆ่ายกครัวหรือไม่
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ทราบเรื่องจากนายวุฒิชัย รักชาติ ผู้อำนวยวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม ก็ได้เข้ามาเยี่ยมนำเงิน 5,000 บาท พร้อมข้าวของยังชีพมาให้เบื้องต้นก่อน ซึ่งทราบถึงปัญหาครอบครัวซึ่งน่าสลดใจ แต่จะพยายามประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆให้มาดำเนินการด้านการช่วยเหลือ ทั้งส่วนของนักจิตวิทยา และทางการติดตามความคืบหน้าของคดี รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นเร่งด่วน ในระยะสั้นและระยะยาวด้วย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการเรียนชุดนักเรียนที่ถูกไฟเผาไปหมดไม่น่าจะมีปัญหาเดี๋ยวจะมีการประสานกับทางวิทยาลัยในการดำเนินการ ส่วน ความปลอดภัยที่น้องออย(นามสมมติ) มีความวิตกกังวลว่าถูกคนร้ายที่ก่อเหตุกลับมาทำร้าย หากยังหวาดกลัวทางวัดไผ่ล้อม ก็มีสถานที่เป็นห้องพักเอาไว้ให้น้องได้ไปอยู่ ซึ่งก็ใกล้กับวิทยาลัยด้วย ส่วนเรื่องรายได้ก็จะให้มาทำงานที่มูลนิธิหลวงพ่อพูล ซึ่งก็จะมีรายได้ยังชีพสำหรับการศึกษาอีกหนึ่งปีเศษ ส่วนเรื่องบ้านที่ถูกไฟไหม้ทราบว่าทางองค์การบริหารส่วนตำบลสามความเผือก ได้เข้ามาดูแลเบื้องต้นแล้ว รอการประเมินการช่วยเหลือ แต่หากยังไม่ครบก็จะมีการนำกลุ่มนักศึกษาจิตอาสาของวิทยาลัยอาชีวะศึกษา ร่วมกับคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมมาช่วยกันทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ สำหรับการรื้อบ้านในส่วนที่เสียหายและช่วยกันซ่อมแซมเบื้องต้นไปก่อน แต่เคสนี้ก็จะไม่ทอดทิ้งจะดูแลไปเรื่อยเรื่อยจนกว่าจะตั้งหลักได้ และขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของน้องออย(นามสมมติ) มีสติซึ่งตอนนี้ได้กำชับให้น้องลืมเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมุ่งหน้าตั้งใจทางด้านการศึกษาเป็นหลักไว้ก่อน ส่วนกรณีของคนร้ายก็ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีที่ก่อเอาไว้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถควบคุมตัวนายแสง อายุ 63 ปี มือวางเพลิงซึ่งก่อเหตุเผาบ้านสองหลังและรถยนต์หนึ่งคัน เอาไว้ได้แล้วโดยได้ถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำอยู่ที่ สภ.สามควายเผือก ในเซฟเฮ้าท์ ซึ่งทางญาติของคนร้ายได้มีการพยายามที่จะขอประกันตัวออกมาสู้คดี ทำให้คนในครอบครัวของน้องออย(นามสมมติ) เกิดความวิตกกังวลว่าคนร้ายจะกลับมายิงคนในบ้านเนื่องจากเจ้าตัวได้เคยมีการไปบอกกับคนที่เล่นการพนันด้วยกันว่าจะยิงคนทางบ้านให้หมด และได้ไปซื้ออาวุธปืนไว้กับคนคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ นายแสง ยังมีอาวุธปืนครอบครองอยู่ด้วยหรือไม่ และหากเป็นไปได้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทางศาลคัดค้านการประกันตัวเพราะทุกคนในบ้านอยู่ในความวิตกกังวลไม่เป็นอันกินนอนและไม่กล้าประกอบอาชีพเพราะกลัวจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเหมือนที่มีการวางเพลิงมาแล้ว