ส่อแววเท็จ! หมอเมฆโดนฟ้อง-โดนปั่นจากผู้ไม่หวัง
ดีทางธุรกิจความงาม
ดราม่าดัง “ฉีดหน้าผิดรูป สูญเงินนับล้าน” โดยมีผู้ร้องเรียนคลินิกความงามหมอเมฆฉีดฟิลเลอร์เกินขนาด ทำให้ตนเอง พี่สาว และคุณแม่ได้รับผลกระทบจน
หน้าพัง
จากกรณีดังกล่าวได้มีการสืบค้นข้อมูลก็พบว่า การที่ผู้ร้องเรียนได้มีการเดินสายออกรายการต่างๆ พร้อมกับมีการแสดงหลักฐานเป็นภาพผลลัพธ์การรักษาของตนเองและคนในครอบครัวนั้นมีการบิดเบือนข้อมูล
ทั้งนี้คาดว่าผู้ร้องเรียนมีเจตนาปิดบังข้อมูลบางส่วนเพื่อไม่ให้ผิดหลักกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วน
บุคคลตามมา
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับหัตถการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั้น โดยทั่วไปแล้วหลังฉีดสารเดิมเต็มใบหน้าจะต้องมีระยะที่เรียกว่า “การเซ็ดตัวของฟิลเลอร์” ซึ่ง
ต้องใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 1 เดือน สารเดิมเต็มถึงจะเช็ดตัวเข้ากับรูปหน้าได้เต็มที่ และหลังจากฉีดในระยะแรกอาจพบอาการบวมที่มาจากเข็ม รวมถึงจากคุณสมบัติของสารเดิมเต็ม (กรดไฮยาลูรอนิก แอชิด) ที่มีการเก็บกักอุ้มน้ำไว้ จึงทำให้บริเวณ
ที่ฉีดบวมขึ้น
ด้วยเหตุนี้เองประกอบกับเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ทางผู้ร้องเรียนได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลตามสื่อต่าง ๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์การรักษายังอยู่ในช่วงที่เรียกว่า “ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่” จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าฉีดแล้วหน้าเบี้ยวหน้าพัง หน้าผิดรูป
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้ร้องเรียนไม่ได้มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น และมีเพียงคำพูดชี้แจงว่าตนเองได้เข้ารับการตรวจ
รักษากับหมอเมฆ มีการแสดงรูปภาพของผลิตภัณฑ์สารเดิมเต็มที่ทำหัดถการ รวมถึงแสดงใบเสนอราคาของคลินิก โดยในเวลาต่อมามีผู้ไม่หวังดีที่คาดว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจคลินิกความงามได้มีการปลุกปั่นด้วยการนำเสนอข้อมูลในลักษณะใส่ความโจมดี ซึ่งนำมาซึ่งความเสียหายในด้านชื่อเสียงรวมถึงความน่าเชื่อถือของคลินิกหมอเมฆ
ในปัจจุบันแวดวงคลินิกความงามเป็นธุรกิจที่เดิบโดอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงตามไปด้วย ดังนั้นเวลาที่เสพข่าวอยากให้ดูอย่างมีสติและพิจารณาจากข้อมูลรอบด้านของทุกฝ่าย อย่าเพิ่งปักใจเชื่อฝ่ายใดฝ่ายเดียว รวมถึงก่อนตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการความงามไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ควรศึกษา
ข้อมูลอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพิจารณาเลือกเข้ารับบริการในคลินิกความงามนั้นๆ