หลวงพี่น้ำฝน เดินหน้าธนาคารเตียง-รถวีลแชร์ ช่วยเหลือแรงงานเมียนมาประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เข้าให้การช่วยเหลือแรงงานเมียนมาขาหักจากอุบัติเหตุรถขนคนงานคว่ำ โดยเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 2 รายบาดเจ็บ 8 ทำให้นายจ้างประสบปัญหาด้านธุรกิจ โดยย้ำการช่วยโยมไม่แบ่งเชื้อชาติศาสนา ในพื้นที่เป็นสิ่งที่ทำในนามคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม เพื่อช่วยเหลือญาติโยมให้สามารถคลายทุกข์ได้ในทุกมิติ
วันที่ 9 มกราคม 2567 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นำเจ้าหน้าที่มูลนิธิหลวงพ่อพูล จัดเตียงสำหรับผู้ป่วย เงินยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง เข้ามอบให้กับนายซานิ ออง อายุ 43 ปี แรงงานชาวเมียนมา ซึ่งนอนติดเตียงอยู่ในห้องเช่า ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลถนนขาด อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุ ทางรถยนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 2 รายและได้รับบาดเจ็บ 8 ราย
นางรุ่งนภา ทองดำ อายุ 44 ปี นายจ้าง บอกว่า การได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก หลวงพี่น้ำฝน เนื่องจากทราบว่า ที่วัดไผ่ล้อม มีการจัดทำโครงการธนาคารเตียง-รถวีลแชร์ ที่ประชาชนไม่มีกำลังจัดเองได้ ซึ่งที่ต้องเข้าขอรับการช่วยเหลือจากวัดไผ่ล้อม เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา พนักงานของบริษัทที่ตนเองได้เปิดรับทำระบบไฟฟ้า ได้รับคนงานจำนวน 10 คนกลับจากการทำงาน ซึ่งระหว่างทางรถบรรทุกที่มีแท่นเจาะดินได้ถูกรถจักรยานยนต์ ตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดทำให้คนขับต้องหักหลบและทำให้รถพลิกคว่ำมีคนงานเสียชีวิตทันที 2 คนในที่เกิดเหตุและได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยนายซานิ ออง เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขาหัก และมีบาดแผลหลายแห่ง
นางรุ่งนาภ บอกต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สูญเสียพนักงานไปหลายคนทั้งที่เจ็บและเสียชีวิต โดยทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถรับงานได้อีกซึ่งต้องมีการดูแลคนที่เจ็บและเตรียมประสานจัดงานศพให้ผู้เสียชีวิตและส่งผลถึงรายจ่ายที่มีมาก การที่หลวงพี่น้ำฝน ได้นำเตียงและเงินช่วยเหลือและข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้ทำให้ช่วยทุ่นภาระกับทุกฝ่ายและไม่คิดว่าจะมีการช่วยเหลือได้รวดเร็วและเมตตาจากวัดไผ่ล้อม เพราะคนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นชาวต่างด้าวแต่ก็ได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า การเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องนอนติดเตียงแม้จะเป็นแรงงานต่างด้าวชาวต่างชาติ ทางวัดไผ่ล้อมไม่เคยยึดติดว่าจะเป็นใครศาสนาอะไร เราก็ช่วยเหลือทั้งสิ้น ซึ่งมาเห็นแล้วก็รู้สึกว่าน่าเห็นใจเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในงานของคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมซึ่งทำหน้าที่ในนามคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมที่จะช่วยเหลือญาติโยม โดยเป็นงานในด้านสาธารณสงเคราะห์ ซึ่งอาตมาก็จะจัดหามาให้หากได้รับการร้องขอหรือหากเกินกำลังก็จะประสานงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้การช่วยเหลือซึ่งเป็นสิ่งพระสงฆ์พึงกระทำ