Breaking News

อธิบดีพช. พร้อมด้วยประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน ย้ำโคก หนอง นา คือ หนทางสู่ความยั่งยืน

อธิบดีพช. พร้อมด้วยประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน ย้ำโคก หนอง นา คือ หนทางสู่ความยั่งยืน

วันที่ 10 กันยายน 2564

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ลงพื้นที่ติดตามความสำเร็จโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายสมาน พั่วโพธิ์ พัฒนาการจังหวัดสกลนคร จ่าสิบเอกคำนึง พรหมพิมพ์ นายอำเภอพังโคน ดร.ชูพงษ์ คำจวง นายกอบจ.สกลนคร นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ และครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (HLM) ที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้การต้อนรับ ณ แปลงตัวอย่างพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ระดับตําบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) ของนางสาวอินท์ชลิตา คุณธรรมพงไท ในพื้นที่ 15 ไร่ และระดับครัวเรือน (House hold Lab Model for quality of life : HLM) ของนางสาวขนิษฐา จิตเจริญ ในพื้นที่ 3ไร่ หมู่ที่ 10 บ้านหนองนกกด ตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นหินลูกรัง และได้มีการขุดหน้าดินไปขาย สามารถมีการบริหารจัดการพื้นที่ตามภูมิสังคมและพลิกฟื้นผืนดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีการเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

โอกาสนี้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้กล่าวขอบคุณ แสดงความรู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการฯ จากที่เราไม่มีความรู้เกี่ยวกับโคก หนอง นา พอเราได้มาสัมผัสและลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เรารู้จักกับความสุข ความยั่งยืนในชีวิต มีการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ปลูกไม้ 5ระดับ บนคันนาทองคำ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในยามแห้งเเล้ง มีการเรียนรู้ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ ทำให้เกิดการบริหารจัดการดินและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเราดีขึ้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายอำเภอพังโคน นายกอบจ.สกลนคร และพี่น้องครัวเรือนบ้านหนองนกกดทุกท่านที่ได้ร่วมมือในการขับเคลื่อนงานโครงการฯ อย่างเต็มที่ในการสร้างพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่คนในชุมชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” จะทำให้ระบบนิเวศดีขึ้น ทำให้มีแหล่งพื้นที่จัดเก็บน้ำฝนได้หลายล้านลูกบาศก์ มีความมั่นคงทางอาหาร พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น รวมถึงยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพรอีกมากมาย หากน้อมนำเอาหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน เชื่อได้ว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามที่ กรมการพัฒนาชุมชน อนุมัติให้อำเภอพังโคน ดำเนินงานตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ปีงบประมาณ 2564 ได้มีการสร้างพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of life : CLM) ระดับตำบล จำนวน 1 แปลง ขนาด 15 ไร่ ของ นางสาวอินท์ชลิตา คุณธรรมพงไท หมู่ที่ 10 บ้านหนองนกกด ตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยมีการออกแบบพื้นที่ตามภูมิสังคมในกระบวนการขับเคลื่อนงาน ด้วยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี และช่างออกแบบของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 26 ดำเนินการขุดปรับพื้นที่ ซึ่งมีการขุดปรับพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ อำเภอได้ดำเนินการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์สำหรับบำรุงดิน สนับสนุนการจัดทำสื่อการเรียนรู้ เช่น ป้าย เพื่อใช้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ประชาชน ในการฟื้นฟูดิน และการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงส่งเสริมการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อให้พื้นที่ต้นแบบและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

 

จากนั้น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้ร่วมกิจกรรม ปล่อยปลาจำนวน 5,000 ตัว ประกอบด้วย ปลานิล ปลาตะเพียน ปลานวลจันทร์ รวมถึงปลูกต้นพะยูง พืชสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร จำนวน 50 ต้น กระชาย จำนวน 50 ต้น และร่วมกันห่มดิน ใส่ปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพ ด้วยการแห้งชามน้ำชาม สุดท้ายนี้ จึงขอฝากความหวังของกรมการพัฒนาชุมชนที่อยากเห็นพี่น้องประชาชนทุกคนมีความมั่นคงในชีวิต และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตนเองและประเทศชาติได้อย่างยั่งยืนต่อไป อธิบดีพช.กล่าว