กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรในงาน ThaiTAM 2020 ประสบความสำเร็จเกินคาด สร้างมูลค่าการค้ากว่า 354 ล้านบาท
การจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรในงาน ThaiTAM 2020 ระหว่างวันที่ 1 – 4 ธันวาคม 2563 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ในการสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร และช่วยกระตุ้นการส่งออก ผลเจรจาธุรกิจ 4 วัน สร้างมูลค่าทางการค้ารวมกว่า 354 ล้านบาท
ดร. สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตร เมื่อวันที่ 1 – 4 ธันวาคม 2563 ได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้นำเข้าต่างประเทศและผู้ประกอบการไทย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเจรจาการค้าโดยผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ซึ่งผู้ประกอบการไทยสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 บริษัท และมีผู้นำเข้าจากต่างประเทศเข้าร่วมกิจกรรม 41 ราย
จากภูมิภาคแอฟริกา เอเชียใต้ และอาเซียน อาทิ ประเทศไนจีเรีย, กานา, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, แทนซาเนีย, อียิปต์, แอฟริกาใต้, อินเดีย และบังกลาเทศ เป็นต้น มีจำนวนคู่เจรจาจริงทั้งสิ้น 169 คู่ เกิดมูลค่าทางการค้ากว่า 354 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 250 ล้านบาท ถึง 104 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.6 และเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าสั่งซื้อปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่า 116 ล้าน หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 48.74 โดยมีสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าต่างประเทศ อาทิ รถไถและชิ้นส่วน รถไถนาเดินตาม ชิ้นส่วนเหล็กหล่อ ท่อน้ำหยด รถตัก รถคีบไม้ เครื่องอบลดความชื้น เครื่องสีข้าว ปั๊มน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ส่งออกและผู้นำเข้ามีความพึงพอใจในการเข้าร่วมเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นอย่างมาก หากกรมมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบเดียวกันนี้อีกก็สนใจที่จะเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เรียกว่าได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะไม่เพียงแต่ขายให้ผู้ซื้อผู้นำเข้าต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังขายให้เกษตรกรไทยด้วย เพื่อจะได้นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ และลดต้นทุน ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้เกษตรกรไทยในขายสินค้าไปยังต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาและส่งเสริมสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรไทยสู่ตลาดโลก พร้อมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรอีกด้วย