พร้อมรับแฟนพันธ์แท้ OTOP กับงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี และงาน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ทั่วไทย รวมไว้ไนที่เดียว อลังการงานสร้างจากฝีมือคนไทย จัดเต็มพื้นที่ชาเลนเจอร์ 2-3
…………………………
8 สิงหาคม เปิดจำหน่ายวันแรก กับงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี ประจำปี 2563 และงานที่สายเที่ยวพห้ามพลาดงานชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ทั่วไทย รวมไว้ไนที่เดียว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคม 2563 นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อสืบสานงานผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าของโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ รวมถึงเพิ่มช่องทางจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอทอป (OTOP)
โดยในช่วงเช้า วันที่ 8 สิงหาคม เวลา 07.29 น . นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้เป็นประธานกระทำพิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาทิ ศาลตายาย ศาลพระพรหม ศาลเทวาลัยพระศิวะมหาเทพ พระพิฆเนศวร์ ศาลาเทวดา เจ้าแม่ธรณี ศาลพระภูมิชัยมงคล และเจ้าปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธ เป็นต้น เพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ใช้พื้นที่จัดงานกว่า 40,000 ตารางเมตร ของอาคารชาเลนเจอร์ 2-3 เพื่อรองรับลูกค้าผู้ร่วมจัดแสดงงาน รวมไปถึงอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผู้มาชมงาน ซึ่งปกติมีจำนวนมากและจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม ทาง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ เพื่อให้หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบ และแนะนำก่อนการจัดงานล่วงหน้า 1 เดือน โดยได้หารือและประสานหน่วยงานราชการให้ความร่วมมือต่างๆ
เพื่อให้การจัดงานได้เกิดขึ้นภายใต้ความปลอดภัยของทุกคน เป็นการเปิดบริการเต็มรูปแบบในวิถีใหม่ New normal นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางปฏิบัติร่วมกันที่ชัดเจนและเข้มงวดทุกขั้นตอนการคัดกรอง การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด การฆ่าเชื้อโรคด้วยเครื่องฉายแสง UVC หลังงานเลิกในทุกวัน การจัดเตรียมเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ การจัดจุดพักรอ การจัดบริการขนส่งสาธารณะภายในพื้นที่ศูนย์ฯ และที่สำคัญเน้นย้ำการสแกนแอปพลิเคชัน ไทยชนะ เช็คอิน-เช็คเอ้าท์ ในแต่ละจุดตั้งแต่ทางเข้าอาคาร บูธแสดงสินค้า เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาจับจ่ายสินค้า และผู้ประกอบการ OTOP ให้งานประสบความสำเร็จ มีบรรยากาศของการจับจ่าย สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการโอทอป และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศร่วมกันอีกครั้ง