รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการรับน้ำหลากในฤดูฝน ปี 2563 พร้อมกล่าวมอบนโยบายการติดตามและแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชเพื่อเตรียมการรับน้ำหลาก ปี 2563
เมื่อวันที่20พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมโรงเรียนวัดทรงคนอง อำเภอสามพราน
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการรับน้ำหลากในฤดูฝน ปี 2563 พร้อมกล่าวมอบนโยบายการติดตามและแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชเพื่อเตรียมการรับน้ำหลาก ปี 2563 โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวต้อนรับ และมี นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าววัตถุประสงค์ของการประชุม ร่วมด้วย ด๊อกเตอร์สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วย นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม /นายยงยุทธ สวนทอง นายอำเภอสามพราน เข้าร่วมการประชุม พร้อมรับฟังผลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยที่ประชุม ผู้แทนกรมชลประทาน /ผู้แทนกรมเจ้าท่า /ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น /ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รายงานผลการดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช และพิจารณาการแบ่งพื้นที่จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม GISTDA เพิ่มเติมในลุ่มแม่น้ำภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 19 จังหวัด รวม 128 จุด ของ 4 หน่วยงานหลัก ซึ่งจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA ที่แสดงการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในลุ่มน้ําภาคกลางและภาคตะวันออก จํานวน 19 จังหวัด ซึ่งพบการ สะสมของผักตบชวาและวัชพืช จํานวน 128 จุด โดยมีการมอบหมายให้ 4 หน่วยงานหลักรับผิดชอบ ดังนี้ 1.กรมโยธาธิการ และผังเมือง รับผิดชอบ จํานวน 13 จุด 2.กรมชลประทาน จํานวน 75 จุด 3.กรมเจ้าท่า จํานวน 13 จุด และ 4.กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 24 จุด นอกจากนี้ยังมีเขตรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร จํานวน 3 จุด รวมเป็นพื้นที่ทั้งหมด 3,574 ไร่ ปริมาณผักตบชวาและวัชพืช จํานวน 285,920 ตัน ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องวางแผนและ เร่งรัดดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมรายงานผลให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ทราบทุกวันที่ 15 ของเดือน เพื่อดําเนินการต่อไป ซึ่งปัจจุบัน กรมโยธาธิการและผังเมือง รับผิดชอบแม่น้ําท่าจีน เป็นระยะทาง 120 กิโลเมตร โดยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีการจัดตั้งสถานีดักผักตบชวาและวัชพืช จํานวน 5 จุด ได้แก่ 1.บริเวณวัดโพธิ์ 2.วัดบางพระ 3.วัดไทยาวาส 4.วัดทรงคนอง และ 5.วัดบางช้างเหนือ ดเวยเรือกําจัดผักตบชวาแบบสายพาน และแบ็คโฮแบบลงโป๊ะ อย่างละ 1 ลํา โดยในบริเวณพื้นที่ สถานีและบริเวณพื้นที่สะสมของผักตบชวาหนาแน่นจะมีการเพิ่มเครื่องจักรเข้าไปดําเนินการแก้ไขปัญหา ในการเปิดทาง น้ําที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ํา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง สําหรับพื้นที่รับผิดชอบ แม่น้ําท่าจีนในจังหวัดนครปฐม ได้มีการกําจัดผักตบชวาและวัชพืชไปแล้ว ในปีงบประมาณ 2562 จํานวน 404,941 ตัน และเริ่มต้นปีงบประมาณ 2563 ถึงปัจจุบันกําจัดได้ จํานวน 230,780 ตัน ทั้งนี้ การกําจัดผักตบชวาและวัชพืชเป็นหนึ่งใน มาตรการขจัดสิ่งกีดขวางทางน้ําในการบริหารจัดการน้ํา โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการเปอดทางน้ํา ให้น้ําสามารถไหลเวียนได้สะดวกในฤดูฝน อีกทั้งยังเป็นการรักษาคุณภาพน้ําในแม่น้ําและแหล่งน้ําให้อยู่ในค่ามาตรฐานอีกด้วย
-จากนั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ด๊อกเตอร์สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และคณะ พร้อมด้วย นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม /นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม /นายยงยุทธ สวนทอง นายอำเภอสามพราน และ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณแม่น้ำท่าจีน หน้าวัดทรงคนอง อำเภอสามพราน เพื่อตรวจเยี่ยมพร้อมติดตามการปฏิบัติหน้าที่การจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำบริเวณหน้าวัดทรงคนอง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมาชิกชมรมคนริมน้ำ และท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอสามพรานที่ได้นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์มาช่วยจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืช พร้อมมอบนโยบายเร่งรัดให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติและแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำท่าจีนโดยเร่งด่วน พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาและการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครปฐม อาทิ จัดทำปุ๋ยอินทรีย์ อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์จักสาน
-ซึ่งพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปัญหาผักตบชวาและวัชพืช ในแม่น้ำเป็นปัญหาที่รัฐบาลใส่ใจให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และในวันนี้ สืบเนื่องจากการประชุมกำหนดแผนการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เพื่อเตรียมรับน้ำหลากในฤดูฝนปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบหมายให้ 4 หน่วยงาน รับผิดชอบพื้นที่ที่มีการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำเชื่อมโยงตามรายงานการสำรวจของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)(GISTDA) จำนวน 25 จุด แล้ว ยังได้สั่งการให้ GISTDA สำรวจพื้นที่ที่มีการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำเชื่อมโยงเพิ่มเติมในลุ่มน้ำภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 19 จังหวัด พบการสะสมของผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 128 จุด และมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดแบ่งพื้นที่ให้ 4 หน่วยงานหลักรับผิดชอบ และเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้
-นอกจากนี้ยังสั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหาเรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานท้องถิ่นมีอุปกรณ์เครื่องมือในการดูแลแก้ไขปัญหาผักตบชวาในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อมิให้ผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางการไหลระบายของน้ำและป้องกันบรรเทาปัญหาน้ำล้นตลิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่ริมน้ำและใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำดังกล่าว นอกจากนี้ในการแก้ไขปัญหาในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บเล็กผักตบชวาด้วยเรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์ที่ให้การสนับสนุนกับหน่วยงานท้องถิ่น ขอให้จังหวัด นายอำเภอ รวมถึงหน่วยงานปกครองได้กวดขันกำชับให้มีการดำเนินการจัดเก็บให้เป็นกิจวัตรประจำอย่างต่อเนื่อง และรวบรวมรายงานผลการดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อประเมินผลและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณสนับสนุนดังกล่าว