สื่อดังของญี่ปุ่นชื่นชมนโยบายปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาด ย้ำถึงความสำคัญของการอยู่อย่างพอเพียงตามปรัชญาของในหลวงรัชการที่ 9
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า มีสื่อของประเทศญี่ปุ่น www.agrinews.co.jp/p50671.html ให้ความสนใจนโยบาย การรณรงค์ระดับชาติของกรมการพัฒนาชุมชนให้ประชาชนปลูกพืชผักตาม “แผนปฎิบัติการ 90 วันปลักผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนมีอาหารรับประทานในช่วงการกักตัวอยู่กับบ้าน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สื่อชื่อดังของญี่ปุ่นระบุว่า วิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบ ส่งผลต่อการท่องเที่ยว กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการมีงานทำ กรมการพัฒนาชุมชนจึงมีการรณรงค์ให้ปลูกผักสวนครัวภายในชุมชม เพื่อให้ประชาชนสามารถมีอาหารพึ่งตนเองได้ และเพิ่มรายได้ โดยการรณรงค์นี้อยู่บนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นที่รักของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยพระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจหมุนเวียน การทำเกษตกรรมแบบยั่งยืน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน ได้ใช้ทฤษฎีดังกล่าว มารณรงค์ให้ประชาชนปลูกผักสวนครัวในช่วงวิกฤตินี้ เพื่อความมั่นคงทางอาหาร
สำหรับ เมล็ดพันธุ์ผักที่นำไปแจกให้ประชาชนมีผัก 5 -10 ชนิด เริ่มทำการปลูกทั่วประเทศโดยเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชน โดยยะปลูกตามระเบียงบ้าง ตามสวนที่บ้านบ้าง ผักที่ปลูกเช่น ผักชี, มะเขือ, บวบ, กระเจี๊ยบเขียว, พริกแดง, มะเขือ,แตงกวา และ ผักชี เป็นต้น โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. โดยให้ผู้นำท้องถิ่นและผู้แทนเริ่มการสอนให้ครัวเรือนต่างๆ ให้รู้จักวิธีการปลูก จะมีหน่วยงานส่วนภูมิภาคให้การสนับสนุนด้านเมล็ดพันธุ์และต้นกล้า มีทีมเจ้าหน้าที่ติดตามให้คำแนะนำ เมื่อผักเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวเหลือจากบริโภคในครัวเรือนอาจจะเกิดการแลกเปลี่ยนผลผลิตระหว่างเพื่อนบ้าน และชุมชนอีกด้วย ซึ่งโครงการนี้สื่อญี่ปุ่นมองว่าน่าจะได้รับการชื่นชมจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากมี 90% ของครัวเรือนทั่วประเทศร่วมในการรณรงค์ครั้งนี้
อธิบดีพช กล่าวว่า ในเวปข่าวดังกล่าวได้อ้างถึงนายสกล วนาสิทธิ ที่ปรึกษาด้านการเกษตร ของสถานฑูตไทยในประเทศญี่ปุ่น ได้ให้ข้อมูลกับสื่อขอญี่ปุ่นว่า ช่วงการระบาดของโควิด-19 น่าจะยากที่จะเดินทางและแลก เปลี่ยนสินค้าเกษตรกันเป็นที่น่าเห็นใจญี่ปุ่นขอสู้ไปด้วยกัน ช่วงนี้ทุกคนคงต้องพึ่งพาตนเองไปก่อน และได้ใช้เวลาดังกล่าวทบทวนวิถีของตนเอง เมื่อวิกฤตครั้งนี้จบลง ก็หวังว่าจะมีกิจกรรมทางการเกษตรระหว่างญี่ปุ่นกับไทยมากขึ้นกว่าเดิม
“ในญี่ปุ่นนั้นยอดขายต้นกล้าผักสวนครัวและปุ๋ยสำหรับปลูกที่บ้านก็สูงขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด-19 อย่างเห็นได้ชัด บางร้านยอดขายนั้นสูงกว่า 130%
ศูนย์เกษตร Takatsuki Midorisaikan ในเมือง Takatsuki Osaka ได้เริ่มการขายต้นกล้าผักสวนครัวเช่นเดียวกัน เริ่มขายวันที่ 15 เม.ย.วันเปิดร้านได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คนเข้ามารอหน้าศูนย์ก่อนเวลาเปิด บางคนจ่ายค่าต้นกล้า ถึง 5,000 เยน เขาหวังว่าน่าจะให้ผลผลิตคุ้มค่าคืนต้นทุนที่จ่ายไป” นายสุทธิพงษ์อ้างสื่อดังของญี่ปุ่นระบุ
//////