Breaking News

ประจวบคีรีขันธ์. สุดรันทด!คุณยายวัย 61มือ-เท้ากุดชีวิตลำบาก อาศัยเพิงพักริมเขื่อนหาปลาเลี้ยงชีพ!!

สุดรันทด!คุณยายวัย 61มือ-เท้ากุดชีวิตลำบาก อาศัยเพิงพักริมเขื่อนหาปลาเลี้ยงชีพ!! เคราะห์ซ้ำหนักไม่มีบัตรปชช.อดรับเบี้ยยังชีพสวัสดิการแห่งรัฐ
วันที่ 19 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอกกรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยร้อยโท ณัฐดนัย สุขทวี เจ้าหน้าที่ส่วนประสานงานรักษาความสงบพื้นที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบฯ ได้นำสื่อมวลชน พร้อมถุงยังชีพในเบื้องต้นซึ่งได้รับการสนับสนุนมาจาก ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานมูลนิธิพระราหู โครงการใจถึงใจ ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมเยียนให้กําลังใจ และตรวจสอบชีวิตความเป็นอยู่ของ นางน้อย พันธ์งาม อายุ 61 ปี ซึ่งมีลักษณะร่างกายที่ผอมโซ ไม่มีนิ้วมือและนิ้วเท้า(บางนิ้วหงิกงอ) และไม่มีบัตรประชาชน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก โดยอาศัยอยู่กินกับ นายกมล แป้นทอง อายุ 64 ปี (สามี) ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และหาปลายังชีพ ที่บริเวณบ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 บ้านท่าทุ่ง ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายบุญช่วย สุขสาเกตุ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านท่าทุ่ง พร้อมด้วย นายไพรัช รุ่งเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านท่าวังหิน คอยให้การต้อนรับ และพาเข้าเยี่ยมเยียนลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
โดยเมื่อไปถึงพบนางน้อย พร้อมกับสามีนั่งพักอาศัยหลบแสงแดดอยู่ในเพิงพักขนาดเล็ก. สภาพเก่า บริเวณริมน้ำเพียงลำพัง 2 คนตา-ยาย พื้นที่บริเวณของอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรีติดกับสวนปาล์มของนายทุน จึงได้ถามไถ่ถึงความลำบาก และการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมกับมอบถุงยังชีพ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่มสะอาด ปลากระป๋อง บะหมี่ น้ำปลา น้ำมันพืช และของแห้งที่จำเป็นต้องใช้ในครัวเรือนอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งบริเวณจุดนี้เมื่อระดับน้ำในเขื่อนปราณบุรีเพิ่มขึ้น ที่พักอาศัยของนางน้อยก็จะถูกน้ำท่วมเสียหายด้วยทุกครั้ง
นางน้อย เล่าให้ฟังว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนในขณะที่ตนตัดไม้รวกแล้วมัดได้ถูกไม้รวกบาดเอ็นนิ้วมือนิ้วเท้าจนขาด และหงิกงอจนถึงปัจจุบัน จึงใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากหยิบจับถืออะไรก็ไม่ถนัด ไปรับจ้างทำงานอะไรที่ไหนก็ไม่ได้ต้องอยู่กับบ้านเลี้ยงหมา(สุนัข) และ ไก่ อยู่กับบ้านคอยให้สามีออกหาปลาไปขายเลี้ยงชีพ บางวันโชคดีขายได้มากสุด 100-200 บาท บวกกับเบี้ยผู้สูงอายุของสามีอีกเดือนละ 600 บาท นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ส่วนตนไม่มีบัตรประชาชนมาตั้งแต่เกิดเพราะพ่อ-แม่ไม่ได้ทำให้ จึงไม่ได้รับสิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการจากภาครัฐใดๆเลย และในปัจจุบันตนยังป่วยด้วยหลายโรครุมเร้า อาทิเช่น โรคหัวใจโต โรคปอด ตับอักเสบ และโรคภูมิแพ้ เป็นต้น แถมยังมีหนี้สินติดตัวอีกประมาณ 20000 บาท(สองหมื่นบาท)ด้วย
ด้านนายบุญช่วย สุขสาเกตุ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านท่าทุ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้พยายามดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของลูกบ้านรายนี้อยู่ตลอดอย่างเต็มกำลังความสามารถเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยกำลังและศักยภาพมีจำกัด และที่ผ่านมาได้มีความพยายามติดตาม และเสนอไปยังที่ว่าการอำเภอปราณบุรีให้ได้ออกเอกสารบัตรประชาชนให้กับนางน้อย พันธุ์งาม แต่ยังไม่สำเร็จ ยังติดอุปสรรคอยู่อีกหลายขั้นตอน ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้ปลัดอำเภอเซ็นต์รับรอง ถ้าหากนางน้อย มีบัตรประชาชนก็จะ มีสิทธิ์ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการรายเดือนก็จะสามารถช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ใจบุญที่สนใจจะเข้าเยี่ยมเยียนช่วยเหลือให้ชีวิตความเป็นอยู่ของนางน้อย พันธ์งาม ดีขึ้นสามารถติดต่อสอบถามส่งความช่วยเหลือผ่านนายบุญช่วย สุขสาเกตุ ผู้ใหญ่หมู่บ้านท่าทุ่ง หมู่ 3 ตำบลเขาจ้าว ได้ที่หมายเลข โทร.087-9213743
///////////
หมายเหตุ: มีเสียงสัมภาษณ์ นางน้อย พันธ์งาม และนายบุญช่วย สุขสาเกตุ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านท่าทุ่ง ส่งมาด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น